ถ้าอยากเริ่มธุรกิจ ผมอยากให้วิเคราะห์ด้วย 5 force model (เซฟ เก็บไว้เลย ) ของ Michael E. Porter
เพราะเป็นโมเดลที่โคตรจะดี และ ผมใช้ประจำมากๆ
ถ้าตอบทั้งหมดนี้ได้ เราจะพอเห็นช่องว่างทางการตลาด
แต่อันไหน ที่เรายังตอบไม่เคลีย ไม่ชัด โอกาสการแข่งขันเราก็จะน้อยลง หรือจะมีปัญหาในอนาคตได้
ลองเอาไปใช้ดูครับ
1. สภาวะการแข่งขัน ในตัวนี้
- จำนวนคู่แข่งเยอะไหม ในตลาดนี้
- แบรนด์แข็งในตลาด โหดไหม
- การเติบโตในอุตสาหกรรม สูงรึเปล่า
- มีช่องว่างตลาดให้เราเล่นไหม
- คุณภาพการแข่งขัน เดือดไหม
- ความแตกต่างสินค้า แตกต่าง หรือใกล้เคียงกัน
- กำแพงในการเข้าตลาด (barries of entry) เข้ามาง่ายไหม
2. การเข้ามาของคู่แข่งรายใหม่
- การใช้ เงินทุน ต้องใช้เงินเยอะไหม
- ช่องทางการขาย เข้ามาขายง่ายรึเปล่า
- เทคโนโลยีใหม่ๆ แตกต่างกันไหม
- ต้นทุนใครถูกกว่า ต้นทุนหาถูกกว่าเราได้ไหมในคุณภาพเดียวกัน
- การต่อสู้จากคู่แข่ง เงินทุน การตลาดโหดไหม
- การเข้ามาของคู่แข่งรายใหม่ ง่าย หรือยาก
3. อำนาจการต่อรองจาก ซัพพลายเออร์
- จำนวนซัพในมือมากหรือน้อย
- กำลังการผลิตเค้าเยอะไหม ถ้าขายดี ทำทันไหม
- คุณภาพของผู้ผลิต รักษาคุณภาพได้รึเปล่า
- หาซัพทดแทนได้ไหม …ถ้าเค้าไม่ทำให้ มีคนทำแทนได้ไหม
- เปลี่ยนซัพแล้วเสียหายรึเปล่า…ถ้ามีซัพอื่น เราจะกระทบไหม
4. อำนาจต่อรอง ลูกค้า
- จำนวนลูกค้าเยอะไหม
- life time value ของลูกค้า มูลค่าการซื้อทั้งหมด
- มูลค่าการซื้อของลูกค้าต่อออเดอร์เท่าไหร่
- ต้นทุนการเปลี่ยนแบรนด์ลูกค้าสูงไหม
- ราคามีผลไหม
- ทางเลือกลูกค้าเยอะรึเปล่า
5.สินค้าทดแทน
- มีอะไรมาทดแทนสินค้าเราได้บ้าง
- คุณภาพของสินค้าทดแทน
- แบรนด์ของสินค้าทดแทน
- ราคาของสินค้าทดแทน
- การตัดสินใจซื้อสินค้าทดแทนยากไหม
แจกเก็บไว้ ลองเอาไปใช้กันดู
ก่อนจะตัดสินใจ ทำธุรกิจอะไร
อาจารย์เชียง กัดไม่ปล่อย
#กัดไม่ปล่อยสถาบันสอนขายของออนไลน์